onestopservice.ditp.go.th

กำหนดให้รถยนต์ใช้แล้วเป็นสินค้าที่ต้องห้ามหรือต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2562

คำชี้แจงประกอบการให้ความเห็น
(ร่าง) ระเบียบกระทรวงพาณิชย์
ว่าด้วยการอนุญาตให้นำรถยนต์ใช้แล้วเข้ามาในราชอาณาจักร
พ.ศ. ....
…………………

หลักการ
 ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้รถยนต์ใช้แล้วเป็นสินค้าที่ต้องห้ามหรือต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยผู้ประสงค์นำเข้าจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด 
 
เหตุผล
 เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาตนำเข้ารถยนต์ใช้แล้วให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง”

  ขอบเขตสินค้าที่ควบคุม
 รถยนต์ใช้แล้วตามพิกัดอัตราศุลกากรประเภท 87.01 เฉพาะรถหัวลาก ประเภท 87.03 เฉพาะรถพยาบาล และประเภท 87.05 (รถเครน รถดับเพลิง รถลักษณะพิเศษ) เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตนำเข้า

 สาระสำคัญ

 1.การนำเข้ารถยนต์ใช้แล้วของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์การสาธารณกุศล (รถบริจาค)
  1.1 รถดับเพลิงใช้แล้ว ตามพิกัดฯ 87.05 กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้
        (1) ผู้นำเข้าต้องเป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์การสาธารณกุศลตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
        (2) กรณีมีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี นับแต่ปีที่ผลิต ไม่ต้องแสดงหนังสือรับรองมาตรฐานมลพิษทางอากาศจากยานพาหนะ (ไอเสีย) จากหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานที่รัฐให้การรับรองของประเทศต้นทางที่ใช้รถ
        (3) กรณีมีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปี นับแต่ปีที่ผลิต ต้องมีหนังสือรับรองมาตรฐานมลพิษทางอากาศจากยานพาหนะ (ไอเสีย) ซึ่งแสดงค่ามาตรฐานมลพิษทางอากาศจากยานพาหนะ (ไอเสีย) ของประเทศต้นทางที่ใช้รถ และแสดงค่ามลพิษทางอากาศจากยานพาหนะ (ไอเสีย) ของรถที่ขออนุญาตนำเข้า ที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานที่รัฐให้การรับรองของประเทศต้นทางที่ใช้รถ และต้องผ่านความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบก กรมควบคุมมลพิษ และกรมการค้าต่างประเทศ ว่าค่ามลพิษทางอากาศจากยานพาหนะ (ไอเสีย) ของรถที่ขออนุญาตนำเข้าดังกล่าว ผ่านเกณฑ์มาตรฐานสำหรับรถใช้งานที่ประเทศไทยใช้บังคับอยู่ ณ เวลาที่ขออนุญาตนำเข้า
        (4) ต้องนำเข้าเพื่อใช้ในภารกิจของหน่วยงาน
        (5) มีหนังสือรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัยของอุปกรณ์ดับเพลิงจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
        (6) นำเข้าได้เท่าที่จำเป็นตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือกระทรวงมหาดไทยเห็นสมควร    

https://www.dft.go.th/th-th/public-hearing22_02_2565




วันที่ประกาศข่าว : 01 มี.ค. 2565 721